วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

How to : วิธีอัพเดท iOS 6 จาก iOS 4 หรือเวอร์ชั่นที่ต่ำกว่ายังไง


Updating your device to iOS 6 from iOS 4 or Below

การอัพเดท iPhone, iPad, iPod touch จาก iOS 4 หรือ ต่ำกว่า ไปยัง iOS 6 คุณจะต้องลบข้อมูลภายในเครื่อง และ กู้ข้อมูลจากไฟล์ข้อมูลที่แบ็คอัพไว้ ก่อนการอัพเดทจะเสร็จสมบูรณ์
ขั้นตอนในการอัพเดทมีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมสำรองข้อมูลที่สำคัญ บนอุปกรณ์ (คลิ๊กเพื่อดูขั้นตอนการแบ็คอัพด้วย iTunes)
2. อัพเดทอุปกรณ์ด้วย iOS เวอร์ชั่นใหม่
 a. นำอุปกรณ์ที่ต้องการอัพเดท เชื่อมต่อเข้ากับ iTunes
 b. คลิ๊กที่เมนู Device เลือกอุปกรณ์จากรายชื่อ คลิ๊ก “Check for Update”


หากคุณอัพเดทอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iOS ด้วยเครื่องคอมที่เคยเชื่อมต่อข้อมูลกับ iTunes เป็นประจำ คุณควรทราบว่า


“iTunes จะสำรองข้อมูลและ อัพเดทข้อมูลกับแบคอัพไฟล์ที่เก็บไว้ ข้อมูลที่อยู่บนตัวเครื่อง เช่น แอพที่ติดตั้ง,
เพลง, รายชื่อ, ปฎิทิน, โน๊ต, SMS, และ การตั้งค่า จะยังคงอยู่ครบหลังจากกู้ข้อมูลจากไฟล์แบคอัพ การอัพเดทจะให้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลภายในตัวเครื่อง ขณะทำการอัพเดทห้ามดึงตัวเครื่องออกจากสายเชื่อมต่อ”
หากคุณอัพเดทอุปกรณ์ที่ติดตั้ง iOS ด้วยเครื่องคอมที่ไม่เคยเชื่อมต่อข้อมูลกับ iTunes มาก่อน คุณควรทราบว่า


“iTunes จะลบข้อมูลที่มีอยู่บนเครื่อง และจะกู้ข้อมูลจากแบคอัพไฟล์ ซึ่งข้อมูลบางอย่างจะหายไปiTunes จะเก็บเฉพาะข้อมูลสำคัญเช่น รายชื่อ, SMS, ปฏิทิน, และการตั้งค่าเครื่องอื่นๆ (คลิ๊ก เพื่อ ดูว่าiTunes สำรองข้อมูลอะไรไว้บ้าง?)
3. เมื่อคลิ๊ก Update ระบบจะดาวน์โหลดไฟล์ที่ใช้ในการอัพเดท ตัวเครื่องจะรีสตาร์ท และเริ่มอัพเดท
4. เมื่อระบบอัพเดท iOS เสร็จ ให้คุณเลือกการตั้งค่า Set Up iPhone “Restore from iTunesBackup”
5. ระบบจะทำการกู้ข้อมูลจากไฟล์ที่แบคอัพไว้ก่อนหน้า ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีในเครื่อง ระหว่างนี้ไม่ควรดึงสายเชื่อมต่อข้อมูลออกจนกว่าข้อมูลจะอัพเดต เสร็จสมบูรณ์

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

IOS 5 VS IOS


iOS 6 vs iOS 5 : เทียบกันชัดๆ แบบจุดต่อจุด User Interface บน iOS 6 ต่างจาก iOS 5 อย่างไร?
หลังจากที่ได้เห็นความสามารถใหม่ของ iOS 6 จาก บทความเจาะลึกฟีเจอร์ iOS 6 กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า iOS 6 มีฟีเจอร์การใช้งานในหลายส่วนที่เปลี่ยนแปลง และน่าใช้มากทีเดียวครับ ซึ่งนอกจาก iOS 6 จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแล้ว ในส่วนของ User Interface หรือ หน้าตาของ iOS 6 นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจาก iOS 5 บ้างเหมือนกัน แต่จะมีการเปลี่ยนในเรื่องใดบ้าง เราจะมาทำการเปรียบเทียบในแต่ละจุด ให้ดูกันครับ
เริ่มกันที่หน้า Lock screen กันก่อน จะเห็นได้ว่า ในหน้า Lock screen บน iOS 6 ไอคอนรูปกุญแจได้หายไปแล้ว
ในส่วนของการรีเฟรชอีเมลมาใหม่ iOS 5 นั้น เป็นไอคอนรีเฟรชด้านล่างซ้าย ส่วน iOS 6 จะเป็นการดึงจากบนลงล่าง เพื่อทำการรีเฟรช นอกจากนี้ แถบบาร์ด้านบน เปลี่ยนเป็นสีโทนฟ้าน้ำทะเล แทนที่สีเงินแบบเดิม
บน iOS 6 นั้น สามารถเพิ่มรูป หรือวิดีโอได้จากหน้าเขียนอีเมลใหม่แล้ว โดยสามารถเพิ่มได้ครั้งละ 1 รูป
Interface ของแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปนั้น ได้มีการเปลี่ยนแถบบาร์ด้านล่าง จากสีเงิน เป็นสีดำ
ในส่วนของ Camera Roll นั้น ได้เพิ่มปุ่ม Photo Stream เข้ามา ซึ่งจะต้องเปิดใช้งาน Photo Stream ก่อนในหน้า Settings
ไอคอน Maps มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการเปลี่ยนจาก Google Maps มาเป็น Apple Maps นั่นเอง
แอพพลิเคชั่น Weathers มีการเปลี่ยน UI เล็กน้อย สังเกตตรงขอบ และเส้นแบ่งการพยากรณ์อากาศในแต่ละวันครับ
User Interface ของ Safari นั้น ได้มีการเปลี่ยนสีแถบบาร์ด้านบน จากสีเทา เป็นสีดำ
นอกจากนี้ ยังสามารถแชร์หน้าเว็บเพจได้ ทั้งผ่านทาง อีเมล, Messages, Twitter หรือ Facebook รวมถึงสั่งพรินต์, Copy, Bookmark, เพิ่มในรายการ Reading List และเพิ่มเป็นไอคอนในหน้า Home Screen
นอกจากนี้ การใช้ Safari ในแนวนอน จะสามารถเปิดหน้าเว็บนั้นๆ แบบ Full screen ได้ โดยกดที่ปุ่มลูกศรขยาย มุมล่างขวา
ในส่วนของไอคอน Bookmarks นั้น มี iCloud Tabs เพิ่มเข้ามา
Game Center ได้มีการเพิ่มปุ่ม Challenges
ในส่วนของการใช้งานโทรศัพท์นั้น ได้มีการเปลี่ยน UI ใหม่ จากสีดำ เป็นสีเทาอ่อน แต่ความเห็นส่วนตัวคือ แบบเก่าดูสวยกว่านะครับ
Notification Center สามารถทวีตข้อความลง Twitter ได้จากส่วนนี้
หน้า Settings ได้มีการเพิ่มส่วนของ Do Not Disturb เข้ามา และตัด Personal Hotspot ออก (แต่สามารถเปิดใช้งานได้ ในหมวด Cellular) ส่วนบาร์ด้านบน มีการเปลี่ยนสีเล็กน้อย
ส่วนการปิดการใช้งานเครือข่าย 3G ได้ถูกเอาออกไปบน iOS 6
ในส่วนของ App Store นั้น ได้มีการ re-design เล็กน้อยครับ โดยเปลี่ยนจากพื้นหลังสีเทาเข้ม เป็นสีเทาอ่อน ดูสว่างขึ้น ในส่วนของแท็บ Featured นั้น เปลี่ยนจากการเลื่อนจากบนลงล่าง เป็นจากซ้ายไปขวา และตัดเมนู Top 25 ออกครับ
นอกจากนี้ iOS 6 ยังได้มีการปรับคีย์บอร์ดภาษาไทยให้เป็น 4 แถว จากเดิม 3 แถว ซึ่งการใช้งานในแนวตั้งนั้น อาจจะใช้งานยากซักเล็กน้อยครับ เนื่องจากระยะห่างระหว่างปุ่มนั้นน้อยมาก คนที่นิ้วใหญ่คงจะกดลำบากซักหน่อย แต่ถือว่า ใช้งานได้สะดวกขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
สำหรับด้านบนนั้น เป็นการเปรียบเทียบ User Interface ระหว่าง iOS 5 กับ iOS 6 แบบคร่าวๆ ครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้ สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น ชื่นชอบคีย์บอร์ดภาษาไทยแบบ 4 แถวครับ เนื่องจากพิมพ์ได้สะดวกขึ้นมาก แต่น่าเสียดายที่ปุ่มกดมีขนาดเล็กไปซักเล็กน้อยครับ ซึ่งส่วนที่ไม่ชอบบน iOS 6 คงจะเป็นหน้าโทรออก ที่เปลี่ยนจากสีดำ เป็นสีเทาอ่อน ความรู้สึกส่วนตัวคือ ชอบแบบเก่ามากกว่าครับ เพราะสีเข้มแบบเดิมจะให้ความรู้สึกที่เป็นมิติมากกว่า
อย่างไรก็ดี iOS 6 ที่เปิดให้นักพัฒนาได้ทดสอบใช้งานนี้ เป็นเพียงเวอร์ชั่น beta เท่านั้น ซึ่งการออกอัพเดทในเวอร์ชั่นถัดไป คงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมาก และต้องออกแบบให้ผู้ใช้งานจริง ได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดนั่นเองส่วนกำหนดการอัพเดท iOS 6 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป จะสามารถอัพเดทได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ หรือประมาณเดือนกันยายนนั่นเองครับ
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?

What's new on IOS 6 ! 

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Apple.com

          ในงาน WWDC 2012 นอกจากทางแอปเปิลเปิดตัวสินค้าในตระกูลของแมคที่มีการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ทั้ง MacBook Pro, MacBook Air และ MacBook Pro รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมชื่อ Next Generation MacBook Pro และยังมีอีกหนึ่งไฮโลท์ที่น่าติดตามก็คือการเปิดตัวระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาของแอปเปิลหรือที่เรียกกันว่า iOS 6 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ถึง 200 รายการ ส่วน iOS 6 มีอะไรใหม่ ๆ และจะมีฟีเจอร์เด่นอะไรบ้าง มาติดตามกันเลยครับ

 Siri ฉลาดขึ้นกว่าเดิม

Siri
  
        แอปเปิลได้มีการอัพเดทความสามารถใช้กับ Siri ระบบสั่งการทำงานด้วยเสียง ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น เช่น การรายงานผลการแข่งขันกีฬา, ค้นหาร้านอาหาร, ค้นหาภาพยนตร์, จองตั๋วภาพยนตร์และดูรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพยนตร์ นอกจากนี้บน iOS 6 สามารถสั่งให้ Siri เปิดแอพฯ ต่าง ๆ บนเครื่องได้ สำหรับ Siri ในปัจจุบันรองรับการใช้งานด้วยภาษาทั้งหมด 15 ภาษา และมีภาษาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ได้แก่ ภาษาจีนกลาง, จีนกวางตุ้ง, เกาหลี, อิตาลี, แคนาดา และข่าวดีสำหรับผู้ใช้ New iPad ใช้ Siri ได้แล้ว

 อินทิเกรท Facebook กับ iOS 6


Facebook integrated iOS 6

          iOS 6 มีการรวม Facebook เข้ามาไว้ใน OS ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟังก์ชั่นของ Facebook ได้ เมื่อมีการล็อกอิน Facebook บน iOS 6 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งาน Facebook ผ่านแอพฯ ต่าง ๆ ได้ และรายชื่อของเพื่อน ๆ ที่อยู่บน Facebook ก็จะถูกซิงก์ลงบนเครื่องโดยอัตโนมัติ ข้อมูลกิจกรรม, วันเกิดต่าง ๆ ก็จะซิงก์ลงปฏิทินด้วย นอกจากนี้ยังสามารถกด Like แอพฯ ที่ชื่นชอบได้จาก App Store  

แอพฯ แผนที่ใหม่ แสดงผลแบบ 3มิติ

แผนที่แบบใหม่แสดงผลแบบ 3 มิติ 
   
       แผนที่ใหม่บน iOS 6 ทางแอปเปิลไม่ได้ใช้แผนที่จาก Google Maps แล้ว โดยแผนที่ใหม่บน iOS 6 พัฒนาโดยแอปเปิลนั่นเองและมาพร้อมกับความสามารถในการรายงานสภาพการจราจร, ระบบนำทางแบบ turn-by-turn navigation และสามารถใช้งานแผนที่ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ได้ นอกจากนี้แผนที่ใหม่ยังมีการแสดงผลแบบ 3 มิติหรือที่เรียกว่า Flyover ทำให้มองเห็นแผนที่ 3 มิติแบบสมจริงและสวยงาม

ใช้งาน FaceTime ผ่านเครือข่าย 3G ได้แล้ว


FaceTime ผ่าน 3G

          หลังจากที่ฟีเจอร์อย่าง FaceTime ถูกจำกัดการใช้งานผ่าน WiFi เท่านั้นและบน iOS 6 ได้มีการอัพเดททำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน FaceTime ผ่านเครือข่าย 3G ได้แล้วปรับปรุง Safari ใหม่

Safari เวอร์ชั่นใหม่
Safari

          เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Safari ก็มีการปรับปรุงใหม่เช่นกันบน iOS 6 โดยสามารถอ่านเว็บแบบออฟไลน์ได้ และเพิ่มฟีเจอร์ Smart app banners สำหรับแนะนำแอพฯ จากหน้าเว็บที่เปิดอยู่ หรือซิงก์การทำงานนั้นไปยังแอพฯ ได้และเพิ่ม iCloud Tabs สำหรับซิงก์แท็บที่เปิดในอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ซิงก์ข้อมูลจากไอโฟนผ่าน Safari ได้

แอพฯ PassBook 

Passbook

          Passbook แอพฯ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน iOS 6 เป็นแอพฯ สำหรับผู้ใช้งานที่มีบัตรอยู่มากมายหลายใบ ซึ่งสามารถใช้ Passbook เก็บรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่าย เช่น ตั๋วเครื่องบิน, บัตรสมาชิก, บัตรภาพยนตร์ เป็นต้น โดยสามารถใช้งานแอพฯ ผ่านการสแกนบาร์โค้ดเพื่อจ่ายค่าต่าง ๆ โดยไม่ต้องพกบัตรหรือใช้เงินสดเพื่อจ่ายและยังมีระบบแจ้งเตือนอีกด้วย

ปรับปรุงแอพฯ โทรศัพท์ใหม่

 
Phone

          มีการปรับปรุงแอพฯ โทรศัพท์ใหม่ โดยเพิ่มวิธีรับสายแบบใหม่ โดยการลากขึ้นด้านบนเหมือนกับเปิดกล้องจากหน้าล็อกสกรีน และเพิ่มเมนูช่วยเตือนให้โทรกลับภายหลัง หรือส่งข้อความแทนการรับสายได้ และเพิ่มโหมดใหม่ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปฏิเสธการรับสาย โดยส่งข้อความกลับไปหาต้นสายได้ ว่าไม่สามารถรับสายได้เพราะเหตุผลอะไร

Do Not Disturb ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ

 Do Not Disturb

          ฟีเจอร์ Do Not Disturb น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน หน้าที่ของฟีเจอร์ตัวนี้ คือจะทำการปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ จะไม่มีการแจ้งเตือนมารบกวน (ใช้กรณีที่ต้องการพักผ่อนหรือตอนนอนหลับ) โดยการแจ้งเตือนต่าง ๆ ยังคงเคลื่อนไหวตามปกติ เพียงแต่จะไม่แสดงผลให้เราทราบนั้นเอง สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถกำหนดและตั้งเวลาการทำงานได้

Mail VIP (อีเมลบุคคลสำคัญ)


Mail VIP

          ฟีเจอร์ Mail VIP ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่พลาดอีเมลจากคนสำคัญ ซึ่งฟีเจอร์นี้ จะทำการไฮไลท์อีเมลจากคนที่เราตั้งค่าไว้ให้เป็น VIP หรือติดดาวอีเมลสำคัญ ๆ นั่นเองและนอกจากนี้ยังแนบรูปภาพ, วิดีโอจากในแอพฯ Mail ได้แล้ว

Guided Access

Guided Access

          Guided Access ฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับควบคุมการใช้หน้าจอเฉพาะบางจุด โดยสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้หน้าจอส่วนไหนบนไอโฟนหรือไอแพดใช้งานได้บ้าง


Photo Streams


          ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพจาก Photo Streams ได้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถแชร์ group ของรูปภาพแชร์ภาพให้เพื่อน ๆ ผ่าน iCloud ได้ และยังสามารถ Comment หรือกด Like รูปภาพได้ คล้าย ๆ กับเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กขนาดเล็กนั่นเอง

iOS 6

  

        ทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์การทำงานเด่น ๆ ที่มาพร้อมกับ iOS 6 ซึ่งขณะนี้ทางแอปเปิลได้ปล่อย iOS 6 ให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกได้อัพเดทกันแล้วฟรี ๆ โดยสามารถอัพเดทได้ผ่านตัวเครื่องแบบ OTA (วิธีการอัพเดทเฟิร์มแวร์ iOS แบบ OTA) หรืออัพเดทผ่าน iTunes ก็ได้ ส่วนรุ่นที่สามารถอัพเดทเป็น iOS 6 ได้คือ iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPad 2, New iPad และ iPod touch gen 4 สำหรับใครที่ใช้ iPad 1 (รุ่นแรก) ไม่สามารถอัพเดทเป็น iOS 6 ได้

ข้อมูลจาก : http://men.kapook.com/view42328.html